ทำความสะอาดแบบ Care Cleans EP4 – ห้องน้ำมีเชื้อโรคหรือไม่ ถ้าไม่สะอาด?
หลายคนอาจเคยเกิดอาการไอ จาม น้ำมูกไหลแต่ไม่ได้เป็นหวัด หรือเกิดอาการผื่นขึ้น ตุ่มคันโดยไม่รู้สาเหตุ หนึ่งในสาเหตุหลักที่ส่งผลให้เกิดอาการดังกล่าว คือ มลภาวะและมลพิษมากมายลอยอยู่บนอากาศ เราต้องเผชิญกับฝุ่นผงมลภาวะเป็นประจำทุกวัน มลภาวะเหล่านี้จะติดอยู่บนผิวและเสื้อผ้าและพฤติกรรมที่หลายคนเป็น คือ การกลับมาที่บ้านและนอนพักผ่อนบนเตียงนอนในทันที พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดสิ่งสกปรกสะสมบนผ้าปูที่นอน เมื่อมีสิ่งสกปรกรวมถึงเซลล์ผิวที่ตายแล้วติดอยู่บนผ้าปูที่นอนเป็นเวลานานก็จะทำให้มีไรฝุ่นจำนวนมากขึ้น การ ทำความสะอาด ผ้าปูที่นอนอย่างถูกวิธีจะช่วยลดอาการแพ้ให้น้อยลงได้
ขั้นตอนในการซักผ้าปูที่นอนที่ถูกต้อง มีดังนี้
- ตรวจดูคราบสกปรกที่ติดแน่นที่สังเกตุเห็นได้ด้วยตาเปล่าและป้ายคราบเหล่านั้นด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำเย็นในอัตรา 1 ต่อ 1 จากนั้นปล่อยทิ้งไว้จนกว่าจะแห้งและปัดออกด้วยแปรงซักผ้า
- ซักผ้าปูที่นอนรอบแรกด้วยน้ำเปล่าเพื่อล้างเอาเส้นผมและฝุ่นผงออกจากผ้า
- ผสมน้ำยาซักผ้าแบบน้ำและแบบผงในอัตรา 1 ต่อ 1 ลงในน้ำซักผ้า เพื่อขจัดคราบสกปรกฝังลึก โดยก่อนปั่นผ้าด้วยเครื่องซักผ้าควรแช่ผ้าไว้ก่อนประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงตั้งโปรแกรมซักตามปกติ
- แช่ผ้าปูที่นอนด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อให้ผ้ามีกลิ่นหอมสะอาด
- ตากผ้าปูที่นอนในที่ที่มีการถ่ายเทอากาศได้ดีจนกว่าผ้าจะแห้งสนิท
ขั้นตอนในการทำความสะอาดผ้าปูที่ถูกวิธีตามขั้นตอนด้านบน ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งในการซักผ้าปูที่นอนจะใช้เวลาประมาณ 2 ชม. เป็นอย่างน้อย ซึ่งคุณสามารถประหยัดเวลาได้มากกว่า เหนื่อยน้อยกว่าและได้ผ้าปูที่นอนสะอาดเหมือนใหม่ด้วยบริการของ แม่บ้านรายวันที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีและมีมาตรฐานระดับโลก
ช่องทางติดต่อ
IG: carecleans
FB: Care Cleans
LINE: @carecleans
Website: https://carecleans.com