การทำความสะอาดคราบสกปรกที่ฝังตัวอยู่ในพื้นผิวต่าง ๆ และขจัดออกยากภายในบ้านเป็นเรื่องปวดหัวสำหรับหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคราบที่เกิดจากอาหาร เครื่องดื่ม คราบน้ำมัน หรือคราบสกปรกอื่น ๆ ที่มักจะฝังลึกในเสื้อผ้า พื้นห้องครัว พรม หรือแม้กระทั่งเครื่องใช้ต่าง ๆ กว่าที่เราจะขจัดออกได้อย่างหมดจดนั้นต้องใช้ทั้งเทคนิค วิธีการ และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อให้คราบที่ฝังแน่นเหล่านั้นหลุดออกอย่างง่ายดาย
ในบทความนี้เรามี 5 เทคนิคที่ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถขจัดคราบฝังลึกที่ขจัดออกยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองนำไปปรับใช้กับการทำความสะอาดบ้านของคุณได้เลย! ดังนี้
1. ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู
เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูเป็นเคล็ดลับเก่าแก่ที่มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบฝังแน่น เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อนๆ ที่สามารถย่อยสลายคราบต่างๆ ได้ ในขณะที่น้ำส้มสายชูมีกรดที่ช่วยละลายคราบมันและแบคทีเรีย วิธีใช้คือ ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 2:1 จากนั้นนำไปทาบริเวณที่มีคราบสกปรก ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดคราบเบา ๆ จะช่วยให้คราบหลุดออกได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของการใช้วิธีนี้คือส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้หาได้ง่ายในครัวเรือนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างไว้บนพื้นผิวของสิ่งของที่เราทำความสะอาด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คราบฝังแน่นมาก ๆ อาจต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
2. ใช้ผ้าชุบน้ำร้อนกับน้ำยาทำความสะอาดสูตรเข้มข้น
การใช้ผ้าชุบน้ำร้อนในการขจัดคราบสกปรกเป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ ความร้อนจากน้ำจะช่วยทำให้คราบอ่อนตัวลงและง่ายต่อการขัดออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผสมกับน้ำยาทำความสะอาดสูตรเข้มข้นที่เหมาะกับคราบประเภทนั้น ๆ เช่น น้ำยาล้างจานสำหรับคราบน้ำมัน หรือน้ำยาซักผ้าสำหรับคราบอาหารและเครื่องดื่มบนผ้า เพียงแค่แช่ผ้าในน้ำร้อนที่ผสมกับน้ำยาทำความสะอาด จากนั้นนำไปทาบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วใช้แปรงหรือฟองน้ำขัดออกเบา ๆ สำหรับผ้าที่ไม่สามารถใช้ความร้อนได้ ควรใช้ผ้าเปียกที่น้ำอุ่นแทนเพื่อไม่ให้เนื้อผ้าเสียหาย เทคนิคนี้สามารถใช้ได้กับเสื้อผ้า ผ้าปูโต๊ะ หรือพรมที่มีคราบฝังแน่นได้เป็นอย่างดี
3. แอมโมเนียสำหรับขจัดคราบบนกระจกและหน้าต่าง
แอมโมเนียเป็นสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการขจัดคราบบนกระจกและหน้าต่าง โดยเฉพาะคราบน้ำมันหรือฝุ่นที่สะสมบนพื้นผิว เพียงผสมแอมโมเนียกับน้ำในอัตราส่วน 1:3 แล้วฉีดลงบนกระจก จากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้ทั่ว วิธีนี้จะทำให้กระจกใสสะอาดเหมือนใหม่ทันที โดยข้อควรระวังในการใช้แอมโมเนียคือควรใช้ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศที่ดี และสวมถุงมือเพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีกระทบผิวหนังโดยตรงจะทำให้คุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
4. กรดซิตริกสำหรับคราบตะกรันในห้องน้ำ
กรดซิตริกที่มีอยู่ในน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูมีประสิทธิภาพสูงในการละลายคราบตะกรันและคราบหินปูนในห้องน้ำ เพียงผสมน้ำมะนาวกับน้ำในอัตราส่วน 1:2 แล้วเทลงบนบริเวณที่มีคราบตะกรัน ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วใช้แปรงขัดออก คราบตะกรันจะหลุดออกอย่างง่ายดาย แถมการใช้กรดซิตริกในการทำความสะอาดเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
5. การใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สำหรับคราบบนพรม
คราบสกปรกที่ฝังลึกบนพรมเป็นเรื่องยากที่จะขจัดออกได้ด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคราบประเภทนี้ เนื่องจากมันสามารถทำปฏิกิริยากับคราบแล้วทำให้มันหลุดออกจากเส้นใยของพรม วิธีใช้คือผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำในอัตราส่วน 1:2 แล้วฉีดลงบนคราบ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นใช้ผ้าสะอาดเช็ดออก แต่ก่อนใช้ควรทดสอบกับส่วนเล็ก ๆ ของพรมก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ทำให้สีของพรมซีดจาง เนื่องจากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มีความเข้มข้นที่อาจส่งผลต่อสีของพรม
การทำความสะอาดคราบลึก ฝังตัว ขจัดออกยาก ในบ้านของคุณจะง่ายมากยิ่งขึ้น เพียงนำทั้ง 5 เทคนิคนี้ที่เป็นเคล็ดลับที่ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการขจัดคราบฝังลึกต่าง ๆ ในบ้านของคุณได้จริง และควรลองเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับคราบที่ต้องการทำความสะอาด แล้วคุณจะพบว่าการขจัดคราบที่เคยคิดว่ายากสามารถทำได้อย่างง่ายดาย แต่หากคุณมีความรู้สึกว่าการขจัดคราบพวกนี้มีความยากและวุ่นวายมากเกินไปการเลือกใช้บริการแม่บ้านทำความสะอาด รายวัน รายเดือนก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีและน่าสนใจเพื่อช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลาและแรงกายในการทำความสะอาดบ้านได้อย่างมากอีกด้วย