“บ้าน” คือ สถานที่สำคัญในการพักผ่อน ใช้เวลากับครอบครัว หรือทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย แม้อย่างนั้น เมื่อใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในบ้านเป็นเวลาหลายปี แน่นอนว่าบ้านอาจจะเกิดความสกปรก ของใช้กระจัดกระจาย หรือบ้านดูหม่นหมองกว่าในตอนแรกๆ ที่ซื้อบ้านมา ทำให้ต้องเริ่มจัดบ้านกันใหม่
วันนี้ Care Cleans จะมาบอกเคล็ดลับการจัดบ้านให้น่าอยู่ สร้างความสุขในการใช้ชีวิตประจำวันสำหรับสมาชิกครอบครัวที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน พร้อมแนะนำให้รู้จักบริการทำความสะอาดที่ช่วยให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น
แนะนำ 8 วิธีจัดบ้านให้น่าอยู่
1. จัดระเบียบ แบ่งพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ให้เป็นสัดส่วน
ข้อควรคำนึงอย่างแรกในการจัดตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ คือ การแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอย โดยจัดแจงให้ชัดเจนว่า ส่วนไหนหรือห้องใดใช้สำหรับทำอะไร เช่น แยกมุมห้องนั่งเล่นกับโต๊ะทานอาหาร หรือแบ่งโซนในห้องนอนอย่างเตียงกับตู้เสื้อผ้าออกจากกัน ซึ่งอาจใช้ ชั้นวางของ หรือแผงกั้น รวมไปถึงการปูพรมก็ช่วยนำสายตาให้รู้ว่ามีการแบ่งพื้นที่ออกจากกัน โดยเฉพาะบ้านจัดสรรที่ออกแบบแปลนแบบ Open Space
การแบ่งพื้นที่นับเป็นการจัดบ้านให้น่าอยู่ได้มากขึ้น เพราะเมื่อแบ่งโซนทำกิจกรรมออกจากกัน จะช่วยให้เราจัดวางของใช้ไว้ในพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างลงตัว ลดเหตุการณ์ของใช้รก กระจัดกระจาย หรือจัดเก็บไม่เป็นสัดส่วน เพิ่มความเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
2. ตกแต่งห้องอย่างพอดี
วิธีจัดบ้านให้น่าอยู่ต่อมาที่อยากแนะนำคือ ตกแต่งห้องให้เหมาะสมและพอดีกับสัดส่วนพื้นที่ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เชื่อว่าหลายๆ บ้านคงจะหนีไม่พ้นการซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ชิ้นใหม่ๆ เข้ามาในบ้านเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ที่วางอยู่บนพื้น หรือของตกแต่งที่ติดกับผนัง ไปจนถึงของใช้เล็กๆ น้อยๆ มากมาย แต่หากมีของเหล่านี้สะสมมากเกินพอดี ก็อาจทำให้บ้านดูรก ดูมีพื้นที่น้อยลง ทำความสะอาดค่อนข้างลำบาก แถมซอกมุมต่างๆ ยังเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นและแบคทีเรียอีกด้วย
สำหรับเจ้าของบ้านท่านใดที่รู้สึกเบื่อหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศในบ้าน ขอแนะนำให้ลองทำการติดวอลล์เปเปอร์หรือลองกรุผนังด้วยวัสดุต่างๆ เพื่อเพิ่มลวดลายทำให้บ้านดูมีมิติมากขึ้น อีกวิธีแต่งบ้านให้น่าอยู่มากขึ้น คือ การขยับปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก อย่างการเปลี่ยนพรมลายใหม่ ย้ายตำแหน่งกระถางต้นไม้ เป็นต้น
3. เว้นช่องว่างทางเดินเข้า-ออกให้โล่งอยู่เสมอ
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บ้านดูอึดอัดกว่าที่เป็น คือ การวางสิ่งของกีดขวางทางเดินหรือบริเวณมุมประตูและบันได ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัดและเดินไม่สะดวกแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุอย่างการสะดุดล้ม หรือกระแทกกับสิ่งของ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ
ดังนั้น เราจึงควรเว้นพื้นที่รอบๆ ประตูทางเข้า-ออก และเว้นช่องสำหรับเดินให้เหมาะสม ไม่มีสิ่งกีดขวาง ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อย่างโซฟา โต๊ะ และชั้นวางทีวีให้มีระยะห่างจากกันพอประมาณให้เดินผ่านได้สะดวก รับรองว่าเป็นการจัดบ้านให้น่าอยู่ที่เห็นผลได้ทันที
4. จัดเก็บสายไฟรอบบ้านให้เป็นระเบียบ
ตามจุดต่างๆ ในบ้านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า แน่นอนว่าต้องมีสายไฟอยู่ด้วย โดยเฉพาะบริเวณชั้นวางทีวี โต๊ะคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงห้องครัว ซึ่งเป็นจุดที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รวมกันจำนวนมาก ทำให้มีสายไฟจำนวนมากตามไปด้วย หากไม่จัดระเบียบสายไฟเหล่านี้ให้ดี อาจทำให้พื้นที่เหล่านี้ดูรกตา สะสมฝุ่น และยังเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรได้อีก
เพื่อให้บ้านน่ามองและปลอดภัยมากขึ้น ควรจัดเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบ โดยใช้อุปกรณ์เสริม เช่น กล่องเก็บสายไฟ ท่อกระดูกงู ไส้ไก่พันสายไฟ หรือรางเก็บสายไฟ ที่นอกจากจะช่วยให้สายไฟเป็นระเบียบมากขึ้น ยังช่วยให้ทำความสะอาดง่ายอีกด้วย
5. เพิ่มมุมสีเขียวในบ้าน
ต้นไม้ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ใช้ในการจัดบ้านให้น่าอยู่ เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว สีเขียวของธรรมชาติยังสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี และต้องไม่ลืมเลือกกระถางที่เข้ากับการตกแต่งบ้านด้วย ส่วนใครที่อยากเพิ่มพื้นที่ธรรมชาติในบ้านไปอีกระดับ ก็มีตัวช่วยอย่างบ่อน้ำพุ หรือตู้ปลาเล็กๆ ให้ความสดชื่นกับผู้อยู่อาศัย ซึ่งต้นไม้ที่แนะนำให้ปลูกในบ้านมีหลายชนิด ทั้งต้นเล็ก ต้นใหญ่ และต้นไม้ที่มีคุณสมบัติฟอกอากาศ เช่น มอนสเตอร่า ยางอินเดีย เศรษฐีเรือนใน เขียวหมื่นปี ลิ้นมังกร พลูด่าง ฯลฯ
6. เปิดห้องรับแสงสว่างอย่างเพียงพอ
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บ้านดูกว้าง โล่งโปร่ง คือ แสงสว่างจากธรรมชาติที่ส่องเข้ามาอย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ประตูบานกระจก หน้าต่างขนาดใหญ่ เพื่อไม่ให้บรรยากาศในบ้านดูอึมครึมหรือน่าอึดอัดมากเกินไป เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ในช่วงกลางวัน แนะนำให้เปิดบ้าน เปิดม่านให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาเพิ่มความปลอดโปร่ง ทั้งนี้ สำหรับใครที่กลัวว่าจะมีแสงแดดส่องเข้ามามากเกินไป ก็สามารถติดตั้งม่านโปร่งเพื่อช่วยกรองแสงได้เช่นกัน
7. ดูแลเรื่อง “กลิ่น” ในบ้าน
หนึ่งปัญหาที่มองไม่เห็น แต่สร้างความรำคาญให้กับเจ้าของบ้านก็คือ กลิ่น โดยเฉพาะกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างกลิ่นอาหาร กลิ่นขยะ หรือกลิ่นจากท่อระบายน้ำ ดังนั้นจึงควรหมั่นตรวจสอบจุดต่างๆ ในบ้านที่อาจส่งกลิ่นได้ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างจาน ชักโครก หรือบ่อพักน้ำว่า ไม่มีเศษสิ่งสกปรกหลงเหลือ ไม่อุดตัน หากมีก็ควรจัดการโดยเร็วที่สุดก่อนที่กลิ่นจะกระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ในบ้าน นอกจากนี้ การติดตั้งพัดลมดูดอากาศและเครื่องหอมภายในบ้าน ยังช่วยจัดการเรื่องกลิ่นในระยะยาวได้อีกด้วย
8. หมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ
ข้อสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการจัดบ้านให้น่าอยู่ คือ การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ในทุกบริเวณที่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการกวาดและถูพื้นห้อง ปัดฝุ่นของใช้หรือของตกแต่งต่างๆ ฆ่าเชื้อตามจุดสัมผัส เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได รวมถึงเช็ดกระจกหน้าต่างให้ใสสะอาดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็ดูสบายตา ช่วยให้บ้านสดชื่น ปลอดเชื้อและแบคทีเรียสะสม อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมคลายเครียดได้ดีอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการดูแลจัดบ้านให้น่าอยู่ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่ลองนำวิธีเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ ก็จะรู้สึกถึงความแตกต่างได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ หากเจ้าของบ้านท่านใดที่ไม่มีเวลาทำความสะอาด หรือต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแล การเลือกใช้บริการแม่บ้านเพื่อเข้ามาทำความสะอาด ช่วยจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างดี
Care Cleans ผู้ให้บริการทำความสะอาดครบวงจร
เจ้าของบ้าน ผู้ดูแลอาคาร หรือ ท่านใดใครที่ต้องการบริการทำความสะอาดหรือบริการแม่บ้าน พวกเรา Care Cleans คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดอย่างรอบด้านที่มาพร้อมกับเครื่องมือที่ทันสมัย การันตีประสบการณ์งานที่สั่งสมมามากกว่า 10 ปี มีบริการให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านรายวัน แม่บ้านประจำ หรือแม่บ้านรายเดือน สามารถเลือกตามความสะดวก ทางเรายินดีให้คำปรึกษาและประเมินราคาหน้างานฟรี รับประกันในความสะอาดและความพึงพอใจของลูกค้า
ติดต่อ Care Cleans
โทร.: 02-007-4525
LINE OA: @carecleans
อีเมล: info@carecleans.com