บ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เราทุกคนใช้เวลาส่วนใหญ่มากที่สุด แต่อาจจะมีอันตรายที่เรามองไม่เห็นอย่าง แบคทีเรียและเชื้อไวรัส โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลบ้าน หลายองค์กรก็แนะนำให้ฉีดพ่นฆ่าเชื้อในกรณีที่ผู้ป่วยเคยเข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นๆ ดังนั้น การทำความสะอาดจึงเป็นเรื่องที่ควรเอาใจใส่และปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
แต่จะมีวิธีหรือขั้นตอนการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอย่างไรบ้าง ที่มีประสิทธิภาพและช่วยให้บ้านปลอดเชื้อ วันนี้ Care Cleans จะมาแบ่งปันเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ให้พ่อบ้านแม่บ้านทุกคนได้นำไปใช้ทำความสะอาดบ้าน พร้อมแนะนำบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น
กำจัดเชื้อโรคในบ้านอย่างไร ให้บ้านสะอาดหมดจด
การกำจัดเชื้อโรคภายในบ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่การฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่นๆ ที่อาจทำให้คนและสัตว์เลี้ยงในบ้านเกิดอาการป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ด้วยนั่นเอง มาดูกันเลยว่าจะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง
1. ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ “ใช่”
อันดับแรกก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาด การเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม นั้นสำคัญอย่างมาก เพราะถึงแม้เราจะทำความสะอาดได้ทั่วถึงแค่ไหน แต่หากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ ก็อาจเท่ากับว่าไม่ได้ทำความสะอาดเลยนั่นเอง ดังนั้นเราต้องมั่นใจก่อนว่าน้ำยาที่ใช้นั้นมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อจริง
ในการเลือกน้ำยาฆ่าเชื้อนั้น แต่ละยี่ห้อล้วนมีส่วนผสมที่แตกต่างกันไป โดยเราสามารถสังเกตได้ที่ฉลากด้านข้างกล่องผลิตภัณฑ์ว่ามีการระบุว่า ฆ่าเชื้อโรค ฆ่าแบคทีเรีย หรือฆ่าเชื้อไวรัส ส่วนใครที่อยากลองทำน้ำยาฆ่าเชื้อแบบ DIY เป็นของตัวเอง ทางกรมควบคุมโรคได้แนะนำสูตรน้ำยาฆ่าเชื้อ ดังนี้
- น้ำยาฟอกขาว (สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 6%) 1 ส่วนต่อน้ำ 99 ส่วน เหมาะสำหรับพื้นที่ผิวที่มีละอองเสมหะ น้ำมูก หรือน้ำลายตกค้าง และในพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างพื้นห้อง
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (3%) 1 ส่วนต่อน้ำ 5 ส่วน สามารถใช้ฆ่าเชื้อตามพื้นผิวทั่วไป
- น้ำยาแอลกอฮอล์ 70% เหมาะใช้เหมาะสำหรับฆ่าเชื้อบนพื้นผิวทั่วไปและพื้นผิวโลหะ
2. ทำความสะอาดสม่ำเสมอ สบายใจมากกว่า
หนึ่งเคล็ดลับที่จะทำให้บ้านปลอดเชื้อ สะอาด น่าอยู่มากขึ้นคือ “ความถี่” ในการทำความสะอาด เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ อาจเห็นว่าบ้านไม่ได้สกปรกอะไรมาก จึงอาจแค่ทำความสะอาดเพียง 1 ครั้งในทุก 2-3 วัน หรือบางคนอาจทำความสะอาดเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น ในทางที่ดีควรทำความสะอาดทุกวัน แต่หากมีเวลา อาจจะเพิ่มเป็นวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ยิ่งสร้างความมั่นใจและความสะอาดได้มากยิ่งขึ้น
3. ใส่ใจทุกจุด โดยเฉพาะจุดเล็กๆ ที่มักถูกมองข้าม
บ่อยครั้งที่เรามักทำความสะอาดตามแต่จุดที่มองเห็นหรือใช้งานเป็นประจำ จนลืมไปว่ามีอีกหลายๆ จุดที่มองข้ามไป เช่น ลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ สวิตช์ไฟ รีโมทต่างๆ ที่ล้วนเป็นจุดที่มักโดนสัมผัสบ่อยๆ มีโอกาสที่จะสะสมเชื้อโรคได้มากกว่าจุดอื่นๆ ดังนั้นต้องใส่ใจทำความสะอาดจุดต่างๆ เหล่านี้ด้วย อีกทั้ง ตามห้องต่างๆ ของบ้าน มักมีหลายจุดที่หลายคนละเลยไป อย่างฝุ่นที่เกาะอยู่ตามเครื่องประดับในห้องนั่งเล่น ความชื้นในห้องน้ำที่ทำให้เชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ สะสมมากขึ้น ฟูก ผ้าปูที่นอน และผ้าห่มที่อาจมีไรฝุ่นเกาะติดอยู่ เป็นต้น สุดท้ายนี้ ต้องไม่ลืมที่จะล้างทำความสะอาด “ถังขยะ” ที่ถึงแม้จะมีการใช้ถุงขยะและมีการเปลี่ยนถุงขยะทุกวัน ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากบริเวณถังขยะยังคงมีแบคทีเรียและกลิ่นเหม็นยังตกค้าง สิ่งที่ควรทำคือการทำความสะอาดถังขยะทุกครั้งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากนำถุงขยะไปทิ้ง
4. หน้ากากพร้อม ถุงมือพร้อม ป้องกันตัวเองระหว่างทำความสะอาด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกครั้งที่ลงมือถือความสะอาดบ้าน ก็มีความเสี่ยงที่ตัวเราเองจะติดเชื้อหรือสูดดมฝุ่นเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ขอแนะนำให้สวมหน้ากากและถุงมือตลอดเวลาที่ทำความสะอาด และควรเป็นชนิดใช้ครั้งเดียว เพื่อที่จะกำจัดได้ทันทีหลังทำความสะอาดเสร็จ ซึ่งเราสามารถเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้นด้วยการอาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย รวมทั้งการซักไม้ถูพื้น และผ้าที่ใช้ทำความสะอาดด้วย
5. ช่วยให้บ้านสะอาดขึ้นอีกระดับ ด้วยการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ
หากพบว่าสมาชิกในบ้านเกิดติดเชื้อโควิค-19 หรือยังไม่มั่นใจในความสะอาดของบ้าน การฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ถือว่าเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีเชื้อไวรัสหลงเหลือในบ้าน การพ่นฆ่าเชื้อนั้นคือการกระจายน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยเครื่องพ่นละอองฝอย ซึ่งน้ำยาฆ่าเชื้อดังกล่าวจะช่วยกำจัดไวรัสได้อย่างทั่วถึง แม้ในจุดเล็กๆ ที่อาจเผลอมองข้ามไปในตอนแรก
หากถามว่า “บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อฆ่าเชื้ออะไรได้บ้าง?” ก็ต้องตอบว่าขึ้นอยู่กับส่วนผสมของน้ำยาฆ่าเชื้อ ทั้งนี้น้ำยาโดยทั่วไปสามารถช่วยฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียส่วนใหญ่ เช่น
- ไวรัส: เชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19,HN1,SARS) เชื้อไวรัสตับอักเสบ A, B, C, D, E, และเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดมือเท้าปาก
- แบคทีเรียแกรมบวก: ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ผิวหนัง ปอดบวม ภาฬโรค หรือติดเชื้อในกระแสเลือด
- แบคทีเรียแกรมลบ: สามารถก่อให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ไต ไส้ติ่งอักเสบ และมีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือด
- แบคทีเรียทดกรด: เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดวัณโรค ทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง
- สปอร์แบคทีเรีย: แบคทีเรียที่มีความสามารถสร้างสปอร์ ซึ่งก่อให้เกิดอาการเป็นพิษ ทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดมวนท้อง คลื่นไส้อาเจียน
- เชื้อรา/ยีสต์: มีโอกาสทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง เล็บหรืออวัยวะภายใน การอักเสบในปอด โรคหอบหืด
นอกจากนี้ยังมีข้อดี เช่น กำจัดได้ตรงจุด ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการทำความสะอาดเอง รวดเร็วและปลอดภัย ตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลความสะอาดภายในบ้าน โดยบริษัททําความสะอาดจะเป็นผู้ที่เข้ามาฉีดพ่นฆ่าเชื้อด้วยชุดอุปกรณ์และเครื่องป้องกันมิดชิด สร้างความปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ
บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อจาก Care Cleans ดีอย่างไร?
เพราะความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ Care Cleans จึงให้บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อด้วยการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยและน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้คุณภาพ พร้อมพนักงานผู้เชี่ยวชาญ สามารถฉีดพ่นฆ่าเชื้อได้จริง และมีข้อดี เช่น
- มีประสบการณ์ด้านธุรกิจทำความสะอาดแบบครบวงจร ทำให้ Care Cleans มีบุคลากรชำนาญเฉพาะด้าน เตรียมพร้อมให้บริการเสมอ
- มีทีมงานสำหรับการตรวจสอบด้านคุณภาพและมาตรฐานงานบริการให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มความไว้วางใจมากขึ้น
- มีอุปกรณ์และเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อแบบละอองฝอยละเอียดที่มีคุณภาพสูง และมีการตรวจสอบทุกอุปกรณ์อยู่เสมอ
- ประเมินราคาก่อนปฏิบัติงานตามจริง ไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายหน้างานเพิ่ม
- มีการพัฒนาบุคลากรเพื่อให้บริการได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
- ใส่ใจต่อทุกความต้องการของลูกค้าและรับฟัง พร้อมแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที
ถ้าสนใจบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคในบริเวณของที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน อาคาร หรือสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเชื้อโรคจำนวนมาก สามารถติดต่อ Care Cleans ได้ตามรายละเอียดด้านล่าง
ติดต่อ Care Cleans
โทร.: 02-007-4525
LINE OA: @carecleans
อีเมล: info@carecleans.com